THE BEST SIDE OF วิกฤตคนจน

The best Side of วิกฤตคนจน

The best Side of วิกฤตคนจน

Blog Article

มีแนวโน้มทำให้นักศึกษาในกลุ่มครัวเรือนที่ยากจนมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาระดับสูงได้น้อยลง

สำหรับช่องว่างนี้ ดร.บัณฑิต นิจถาวร อธิบายว่า “เกิดจากระบบแรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด ที่เป็นผลจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมในประเทศไม่มีการพัฒนา ไม่มีนวัตกรรม ไม่มีการลงทุนใหม่ ไม่มีสินค้าใหม่ๆ ที่จะไปแข่งขันกับต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้ ขณะเดียวกันภาคธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ ก็ได้รับการปกป้องในการทำธุรกิจในประเทศ จนทำให้การทำธุรกิจในประเทศมีการแข่งขันน้อย ธุรกิจขนาดใหญ่มีอิทธิพลมากจากสัดส่วนตลาดที่มีสูงและความใกล้ชิดกับผู้ทำนโยบาย สิ่งเหล่านี้ทำให้การแข่งขันที่มีน้อยเป็นข้อจำกัดต่อผู้ประกอบการรายใหม่ ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจจากต่างประเทศ ผลคือไม่มีแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนในประเทศโดยผู้เล่นรายใหม่และเศรษฐกิจเสียโอกาส นี่คืออีกประเด็นที่ลืมไม่ได้และต้องแก้ไข เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาว”

ข้อเสนอที่เป็นทั้งมาตรการระยะสั้น และระยะยาว จะเกิดขึ้นได้เมื่อภาครัฐ ‘ปรับวิธีคิด’ รัฐต้องเข้าใจว่าคนจน คือ คนที่เข้าไม่ถึงโอกาส และมีข้อจำกัดในการใช้ทรัพยากรของรัฐ เพราะคนจน ต้องพึ่งพาทุนทางทรัพยากร แต่การเกิดขึ้นของโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ทำให้ที่ดิน แหล่งน้ำ และป่าไม้ลดน้อยลงไป รัฐจึงต้องเร่งพัฒนาและสร้างศักยภาพให้กับกลุ่มคนจนอย่างเหมาะสม  ออกแบบแนวทางการอบรมให้เป็นไปตามวิถีการใช้ชีวิต 

อินโฟกราฟิก: การแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม การเข้าศึกษาต่อในระดับสูงยังคงเป็นประเด็นน่าติดตาม

ขณะที่ครัวเรือนรายได้น้อย มีรายจ่ายซื้อสลากฯ ที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าครัวเรือนในกลุ่มรายได้อื่น และเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ ขณะที่ครัวเรือนรายได้สูง มีรายจ่ายซื้อสลากฯ เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับรายได้

ปรับปรุงปัจจัยเชิงสถาบัน ลดการผูกขาดของทุนใหญ่ในตลาดโดยการบังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าอย่างจริงจัง กระจายอำนาจการคลังและการเมืองสู่ท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้สื่อและภาคประชาชน รวมถึงปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเพื่อกำจัดปัญหาคอร์รัปชันและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการประชาธิปไตย อันนำไปสู่การออกแบบนโยบายที่มีการคำนึงถึงผลประโยชน์ของคนทุกกลุ่มในสังคม

“แก้ปัญหาความยากจน แต่ไม่ได้ศึกษาความยากจนของพี่น้อง เหมารวม มัดรวมความจน อย่าไปคาดหวังว่าจะแก้ไขได้ ไม่มีทาง ต้องให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ใกล้ความยากจน มีคนไปช่วยเขาคิด ไปสัมผัส จูงมือกันก้าวออกมาจากความยากจน…ไม่ใช่ว่าเอาเงินไปให้ แล้วเขาจะพ้นจากความยากจน”

นอกจากนั้น โครงการผันเงิน ยังเป็นการแสดงถึงการนำสังคมสู่การเป็น “ประชาธิปไตย” ผ่านการ “กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น” ลดทอนความรุนแรงจากข้อเรียกร้องที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างถอนรากถอนโคน และรัฐบาลในชุดนี้ยังประนีประนอมกับคนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อหวังสร้าง “การเมืองทางสายกลาง” หลีกเลี่ยงการนำสังคมไทยสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างสุดขั้วตามกระแส “สงครามเย็น”

แต่การจัดสรรสวัสดิการอย่างเหมาะสมได้ ภาครัฐต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และตรงกับความเป็นจริง ‘รศ.กนกวรรณ มะโนรมย์’ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ วิกฤตคนจน มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มองว่า สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาความจนอย่างมีประสิทธิภาพ คือ การทบทวนฐานข้อมูลภาครัฐเกี่ยวกับคนจน และผู้มีรายได้น้อย เพราะจากการลงพื้นที่ ‘คนจน’ ไม่ได้แบ่งแยกเพียงเส้นแบ่งความจน หรือรายได้ในแต่ละปี แต่ยังมีความสลับซับซ้อนมากกว่านั้น และไม่ควรใช้ข้อมูลการรับสวัสดิการที่ไร้ซึ่งการตรวจสอบความถูกต้อง อย่าง ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ หรือ ‘บัตรคนจน’ เพราะหลายกรณีที่เกิดขึ้น คือ “คนจนจริงไม่ได้ คนที่ได้กลับไม่จน” เพราะคนจนจริง ๆ ไม่สามารถเข้าถึงการลงทะเบียนได้ ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำตั้งแต่แรก

คนจนจะหมดไป?: สำรวจสาเหตุความยากจน ที่แตกต่างกันของคนแต่ละภาค

วินาศภัยทางน้ำแต่ยังไม่ใช่ปีแห่งมหาอุทกภัย

ตัวชี้วัดเชิงปริมาณที่มักถูกอ้างถึง “คนจน” มากที่สุดคือ (ก) “เส้นความยากจน” ที่มาจาก “สถิติรายได้และรายจ่ายของครัวเรือน” ของ สำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยแต่ละปีจะเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และหนึ่งในนั้นคือ ชุดข้อมูลที่ระบุถึงความยากจน คือ เส้นความยากจน, สัดส่วนคนจน, จำนวนคนจน และจำนวนครัวเรือนยากจนเมื่อวัดด้านรายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค

“ที่เราต้องคำนึงถึงต่อมาคือความยั่งยืนของโครงการนี้จะอยู่ตรงไหน ค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ” รศ.ดร.วิษณุ กล่าวกับบีบีซีไทย

Report this page